
ทุกวันนี้ชีวิตเราผูกพันกับเทคโนโลยีมากมายใช่มั้ยคะ ทั้งสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ หรือแท็บเล็ต เทคโนโลยีช่วยให้ชีวิตเราสะดวกสบายขึ้นเยอะ แต่ในขณะเดียวกันถ้าใช้มันไม่ถูกวิธี ก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกายและจิตใจได้เหมือนกันนะคะ ดังนั้นวันนี้เรามาพูดกันถึงวิธีพัฒนาและรักษานิสัยการใช้เทคโนโลยีให้ดีต่อสุขภาพกันค่ะ
1. กำหนดเวลาใช้เทคโนโลยี
เคยรู้สึกไหมคะว่าใช้โทรศัพท์ไปนาน ๆ จนไม่รู้ตัว? บางทีเราหลงไปกับการเช็คโซเชียลมีเดียหรือดูคลิปต่าง ๆ จนลืมเวลาไปเลย วิธีที่ดีคือการตั้งเวลาไว้ให้ชัดเจนค่ะ ว่าจะใช้เทคโนโลยีเท่าไหร่ในแต่ละวัน
ตัวอย่าง: “วันนี้ขอใช้เวลาทำงานออนไลน์แค่ 3 ชั่วโมง” แล้วหลังจากนั้นก็หยุดพักไปทำกิจกรรมอื่น เช่น ออกไปเดินเล่นข้างนอก หรือทำอาหารที่ชอบ ก็จะช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายขึ้นค่ะ
2. ตั้งเป้าหมายให้กับการใช้เทคโนโลยี
การตั้งเป้าหมายจะช่วยให้เราใช้เทคโนโลยีได้อย่างมีทิศทาง ไม่ใช่ใช้ไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีจุดหมาย ถ้าเราใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาตัวเองจะทำให้เวลาเราไม่เสียเปล่า
ตัวอย่าง: ถ้าคุณชอบดู YouTube ลองตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนว่า “วันนี้จะดูวิดีโอที่เกี่ยวกับการทำอาหาร” หรือ “ดูคลิปออกกำลังกาย” ซึ่งจะทำให้เรามีความรู้และประสบการณ์ใหม่ ๆ ทุกครั้งที่ใช้เทคโนโลยีค่ะ
3. ใช้เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ
รู้ไหมคะว่าเทคโนโลยีสามารถช่วยดูแลสุขภาพของเราได้ดีมาก ๆ เลย เช่น การใช้แอปพลิเคชันที่ช่วยในการออกกำลังกาย หรือแอปที่ช่วยให้เรานอนหลับได้ดีขึ้น
ตัวอย่าง: หากคุณอยากออกกำลังกาย ลองใช้แอป Nike Training Club ที่จะช่วยจัดโปรแกรมออกกำลังกายให้เหมาะสมกับตัวคุณ หรือหากคุณมีปัญหานอนหลับแนะนำแอป Sleep Cycle ที่จะช่วยให้คุณนอนหลับได้ลึกและมีคุณภาพมากขึ้นค่ะ
4. ตั้งโหมด “ไม่รบกวน” บางช่วงเวลา
เวลาที่เราโฟกัสทำงานหรือทำสิ่งสำคัญ โหมด “ไม่รบกวน” ในโทรศัพท์จะช่วยให้เราไม่โดนรบกวนจากการแจ้งเตือนต่าง ๆ ได้ค่ะ เพราะบางทีแค่เสียงแจ้งเตือนก็ทำให้เราสมาธิหลุดไปเลย
ตัวอย่าง: ถ้าคุณกำลังทำงานที่สำคัญหรือกำลังอ่านหนังสือ ลองเปิดโหมด “ไม่รบกวน” เพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนจากข้อความหรือการแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็นค่ะ
5. กำหนดพื้นที่ใช้เทคโนโลยี
ถ้าเรามีพื้นที่ที่ชัดเจนในการใช้เทคโนโลยี จะทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่ได้ติดอยู่กับหน้าจอตลอดเวลา เช่น ถ้าทำงานอยู่ที่โต๊ะทำงาน ก็อย่าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูบ่อย ๆ หรือถ้าใช้โทรศัพท์ในห้องนอน ก็อย่าทำให้มันกลายเป็นกิจวัตรประจำวันค่ะ
ตัวอย่าง: ลองสร้างพื้นที่การทำงานและพื้นที่พักผ่อนแยกกันให้ชัดเจน เช่น หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือก่อนนอน และใช้เวลาไปกับการอ่านหนังสือหรือฟังเพลงแทนค่ะ
6. หลีกเลี่ยงการใช้เทคโนโลยีก่อนนอน
การใช้เทคโนโลยีก่อนนอนอาจทำให้เรานอนหลับไม่สนิท เพราะแสงจากหน้าจอทำให้สมองตื่นตัวค่ะ ลองปรับพฤติกรรมดูนะคะ
ตัวอย่าง: ปิดอุปกรณ์ต่าง ๆ ก่อนนอนสัก 30 นาที – 1 ชั่วโมง ลองใช้เวลานี้ไปทำกิจกรรมที่ผ่อนคลาย เช่น ฟังเพลงเบา ๆ หรืออ่านหนังสือ ก็จะช่วยให้หลับได้ดีขึ้นค่ะ
7. ใช้เทคโนโลยีเพื่อเชื่อมต่อกับคนอื่น
เทคโนโลยีไม่ได้มีแค่การทำงานหรือความบันเทิงนะคะ เรายังสามารถใช้มันเพื่อเชื่อมต่อกับเพื่อน ๆ หรือครอบครัวได้ด้วย
ตัวอย่าง: ลองสร้างกลุ่ม Line หรือ Facebook Group เพื่อแชร์เรื่องราวที่สนใจร่วมกัน เช่น กลุ่มคนรักการออกกำลังกาย หรือกลุ่มพูดคุยเรื่องการทำอาหาร ก็ทำให้เราได้พบปะและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ไปพร้อม ๆ กันค่ะ
สรุป
การใช้เทคโนโลยีไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องแย่หรือลำบาก แต่เราต้องรู้จักใช้มันให้ถูกวิธี เพื่อให้มันช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้น และเราก็ไม่ลืมที่จะดูแลสุขภาพกายและจิตใจของเราไปพร้อม ๆ กันค่ะ ลองเอาคำแนะนำเหล่านี้ไปปรับใช้ดูนะคะ